Airbnb แพลตฟอร์มให้เช่าที่พักระดับโลก ประกาศเปิดตัวบริการ “ประสบการณ์” การท่องเที่ยวในเชียงใหม่ หนึ่งในจังหวัดที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย โดยการประกาศในครั้งนี้ จะทำให้ภาคเหนือกลายเป็นเมืองที่สร้างสรรค์ เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม อีกทั้งยังจะกลายเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกแบบยั่งยืน
ในปี 2017 Airbnb ในเชียงใหม่ได้ต้อนรับผู้เข้าพักกว่า 160,000 คนที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆ กว่า 135 ประเทศ ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยถึง 71% บริการ “ประสบการณ์” ของ Airbnb เป็นการเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ให้นักเดินทางได้สัมผัสแก่นแท้ของเมืองที่ตนมาเยือนจากคนในท้องถิ่นที่ต้องการถ่ายทอดความชอบและความสนใจของตนผ่านกิจกรรมงานฝีมืออันเปี่ยมเสน่ห์ Airbnb นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นสื่อกลางเพื่อช่วยเชื่อมโยงผู้คน เปิดโอกาสให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ข้ามวัฒนธรรม ตั้งแต่การท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชนชาวม้ง ไปจนถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาการสักยันต์แบบดั้งเดิม
คุณ ปรินทร์ เมห์ธา ผู้อำนวยการ Airbnb ฝ่ายประสบการณ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “มีนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากสัมผัสประสบการณ์จริงแท้แบบถึงแก่นผ่านมุมมองของคนในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น การท่องเที่ยวในประเทศเองก็เติบโตเช่นกัน มีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นๆ เดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปีก่อน คนในท้องถิ่นกำลังหาทางดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และมิตรไมตรีจิตอันดีงามของประเทศในรูปแบบใหม่ๆ”
Airbnb เปิดให้บริการ “ประสบการณ์” กว่า 13,000 ประสบการณ์ในเมืองต่างๆ กว่า 180 เมืองทั่วโลก ในประเทศไทย เชียงใหม่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพ เนื่องจากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น Airbnb จึงได้ขยายการมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ ต่อไปนี้ ทั้งมัคคุเทศก์อาชีพหรือไกด์นำเที่ยวทั่วไปสามารถขอลงประกาศในแพลตฟอร์มได้ เพื่อเปิดช่องทางเชื่อมโยงสู่กลุ่มนักท่องเที่ยว Airbnb ที่มีกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก
วันนี้ที่เวทีสนทนากับสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT-I) เชียงใหม่สร้างสรรค์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Airbnb ได้ย้ำถึงคำมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจบริการต้อนรับและชุมชนท้องถิ่นในเชียงใหม่
นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยือนเมืองเชียงใหม่ และสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของเรากันมากขึ้น”
คุณวรพงษ์ ผูกภู่ หัวหน้าฝ่ายวิจัย สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน กล่าวว่า “การท่องเที่ยวในประเทศไทยยังค���เติบโตอย่างรวดเร็ว การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราเชื่อมั่นว่าแพลมฟอร์มระดับโลกของ Airbnb จะช่วยเสริมพลังให้กับผู้ประกอบการและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ด้วยการเป็นสื่อกลางในการทำธุรกิจและถ่ายทอดความรู้ความสนใจของคนในท้องถิ่น”
คุณเมห์ธา ยังเสริมว่า “การท่องเที่ยวควรขับเคลื่อนโดยคนท้องถิ่น และเพื่อคนท้องถิ่น ชุมชน Airbnb ชาวไทยพร้อมที่จะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวในประเทศไทยขึ้นไปอีกขั้น บริการ “ประสบการณ์” ของเราจะเป็นประตูที่เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้ถ่ายทอดความหลงใหลที่ตนมีให้แก่นักท่องเที่ยว และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น”
นอกจากนี้ Airbnb ยังได้เปิดตัวประสบการณ์เพื่อสังคม “Social Impact Experiences” ซึ่งเป็นโครงการที่ Airbnb ร่วมมือกับองค์กรไม่หวังผลกำไรในท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา “ประสบการณ์” ที่จะช่วยชุมชนที่องค์กรดูแล และเข้าร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนทั่วโลก Airbnb จะไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ จากการจัดประสบการณ์นี้และมอบเงินรายได้ทั้งหมดให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่ดูแลแต่ละประสบการณ์โดยตรง
ตัวอย่าง “ประสบการณ์” ที่จัดขึ้นในเชียงใหม่
- สัมผัสวิถีชีวิตชนเผ่า – เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง ชมบ้านไม้ไผ่ยกพื้นสูงแบบชาวเขา เที่ยวดูสวนฟาร์มและโรงเรียนในหมู่บ้าน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวคนอื่น “เราอยากให้ชาวเขามีโอกาสที่จะบอกต่อคนภายนอกว่าพวกเขาเป็นใคร มีวิถีชีวิตเยี่ยงไร และแสดงให้เห็นว่าชีวิตนั้นก็เรียบง่ายได้” – มานูเอลโล กล่าว
- สักยันต์ไทยโบราณ – เยี่ยมชม “สำนัก” เล็กๆ ที่คุณจะได้พบกับอาจารย์นิคมผู้เคยบวชเป็นพระ ซึ่งจะอธิบายลวดลายสักยันต์แบบต่างๆ รวมถึงความหมายของรอยสักยันต์ทั้งลายสัตว์ เทวดา และรูปทรงเรขาคณิตแบบไทยโบราณ “ผมอยากช่วยสนับสนุนชุมชนโดยนำภูมิปัญญานี้มาใช้เพื่อเป็นช่องทางเสริมสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน”
- เรียนรู้วิธีทำลูกประคบ – กนกวรรณจะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับน้ำมันสกัดต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติของน้ำมันแต่ละประเภทที่ใช้ในการทำลูกประคบ แล้วลองใช้ลูกประคบอุ่นๆ นวดกดจุด “ประสบการณ์ท่องเที่ยวเช่นนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งยังเป็นช่องทางช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ฉันชอบอธิบายเกี่ยวกับส่วนประกอบและวัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งได้จากชาวบ้าน เป็นฝีมือของคนในชุมชนทั้งนั้น”
- ทอผ้ากับชาวเขา (ประสบการณ์เพื่อสังคม) – กิจกรรมนี้เป็นการร่วมมือกับมูลนิธิพระสงบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะอนุรักษ์และเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม คุณจะได้เห็นชาวบ้านเตรียมนาข้าวและวัตถุดิบธรรมชาติที่จะใช้ทำสีย้อมก่อนเรียนรู้วิธีทอผ้าแบบพื้นบ้าน
- เรียนรู้การทำข้าวซอย –วยา จะถ่ายทอดเคล็ดลับการทำข้าวซอยจากสูตรต้นตำรับของคุณแม่ทีได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้บรรจุเป็นสูตรอาหารเหนือให้ทุกท่านได้เรียนรู้เพื่อถ่ายทอดความรู้นี้ไปทั่วโลก
สำหรับท่านที่สนใจอยากจะร่วมเป็นส่วนหนี่งของการให้บริการ “ประสบการณ์” กรุณาเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ Airbnb