Airbnb จับมือ ททท. กระตุ้นท่องเที่ยว ดึงกลุ่มคนทำงานทางไกลมาเยือนประเทศไทย

Airbnb ประกาศความร่วมมือกับ 20 จุดหมายปลายทางทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพื่อให้นักเดินทางใช้ชีวิตและทำงานได้ทุกที่ง่ายยิ่งขึ้น 

ต้นปีที่ผ่านมา Airbnb ได้เปิดตัวโครงการ Live and Work Anywhere เพื่อช่วยส่งเสริมจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับคนทำงานทางไกล หรือ remote worker ในระดับโลกรวมถึงสนับสนุนรัฐบาลและองค์กรส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวในเมืองต่าง ๆ ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนหลังจากต้องเผชิญข้อจำกัดด้านการเดินทางมาเกินกว่า 2 ปี

โดย 20 จุดหมายปลายทาง ที่ Airbnb โปรโมทสำหรับการทำงานทางไกล ได้แก่:

• บาฮากาลิฟอร์เนีย เม็กซิโก
• บาหลี อินโดนีเซีย
• บรินดิซิ ปุลยา อิตาลี 
• บัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา
• แคริบเบียน
• หมู่เกาะกานาเรียส สเปน 
• เคปทาวน์ แอฟริกาใต้
• โคลอมเบีย
• ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
• ฟรีอูลี-เวเนเซียจูเลีย อิตาลี
• ลิสบอน โปรตุเกส
• มอลตา
• เม็กซิโกซิตี เม็กซิโก 
• ปาล์มสปริงส์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
• ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย
• เมืองชนบทในฝรั่งเศส
• ซัลทซ์คัมเมอร์กูท ออสเตรีย
• แทมปาเบย์ ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
• ประเทศไทย
• ทัลซา โอคลาโฮมา

ทั้งนี้ Airbnb ได้ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อย่างใกล้ชิดและจะริเริ่มโครงการต่างๆ ใน
อีก 2-3 เดือนข้างหน้า เช่น การสร้างศูนย์ข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับประเทศไทย แสดงที่พักระยะยาวชั้นนำในแต่ละ
ท้องถิ่น รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศและข้อมูลวีซ่าเพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานทางไกล โดยความร่วมมือกับประเทศไทยครอบคลุมถึงการรณรงค์ให้ความรู้แก่โฮสต์และคนที่ทำงานระยะไกล เพื่อส่งเสริมการให้บริการที่พักและการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบ โดยคาดว่าจะเปิดตัวศูนย์ข้อมูลออนไลน์ของประเทศไทยได้ภายในปีนี้

จุดหมายปลายทางพันธมิตรในความร่วมมือดังกล่าวของ Airbnb ทั่วโลกประกอบด้วยจุดหมายปลายทางในระดับประเทศ ไปจนถึงเมืองเล็กๆ ที่ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง ซึ่งได้ถูกคัดเลือกตามเสน่ห์ดึงดูดคนทำงานทางไกล และความก้าวหน้าด้านนโยบายที่เอื้อแก่ผู้ต้องการอาศัยและทำงานในภูมิภาคอื่น ตลอดจนดึงดูดนักเดินทางแนวใหม่ๆ โครงการริเริ่มนี้ต่อยอดมาจากความร่วมมือของ Airbnb กับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวกว่า 160 แห่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ผ่านการส่งเสริมการทำงานทางไกล

ผู้คนนับล้านในปัจจุบันไม่ยึดติดว่าจะต้องทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน เราจึงเห็นนักเดินทางกระจายไปยังเมืองต่างๆ นับพัน และอยู่กันนานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือตลอดฤดูเลยด้วยซ้ำ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 มีนักเดินทาง solo travel จากต่างประเทศ ค้นหาที่พักระยะยาวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562

ข้อมูลที่น่าสนใจคือในปี 2564 ผู้เข้าพักทั่วโลก 1 ใน 5 คนใช้ Airbnb เพื่อทำงานทางไกลระหว่างการเดินทางซึ่งนับเป็นเทรนด์เติบโตต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1 ปี 2565 ทำให้การเข้าพักระยะยาวเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่าจากไตรมาส 1 ปี 2562 นักเดินทางกลุ่มนี้ “ใช้ชีวิต” ในการเข้าพัก Airbnb และหลายคนก็วางแผนเข้าพักในเมืองต่างๆ กว่า 72,000 แห่งในช่วงฤดูร้อนนี้

อ้างอิงจากงานวิจัยโดย Harvard Business School ระบุว่า กลุ่มดิจิทัลโนแมดกับคนที่ทำงานระยะไกลจะไม่เพียงสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจแล้ว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการในชุมชนที่พักอาศัยอยู่และร่วมสร้าง “ชุมชนเทคโนโลยี” ไปทั่วโลก 

นายเนธาน เบลชาร์ซิค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Airbnb เปิดเผยว่า “ช่วง 2 ปีตั้งแต่เกิดโรคระบาด เราได้เห็นโลกแห่งการเดินทางแนวใหม่ที่ผู้คนทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ โดยในความร่วมมือกับทุกจุดหมายปลายทางนี้ เราต้องการเพิ่มความสะดวกให้ผู้ที่ทำงานทางไกลสามารถทำงานแบบยืดหยุ่น รวมถึงช่วยส่งเสริมการเดินทางอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ เราทราบดีว่าการเดินทางจะเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ชุมชนท้องถิ่นและเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่เปิดตัวแคมเปญนี้ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่อยากเข้าร่วมเทรนด์ใหม่กับกลุ่มคนนับล้านที่ชอบทำงานและเดินทางอย่างยืดหยุ่น”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า:

“ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลกสำหรับคนที่ทำงานนอกสถานที่และนักท่องเที่ยวระยะยาว ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของท้องถิ่นที่มีความพร้อม การเข้าถึงชุมชนได้สะดวกและที่พักที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหลากหลายเหมาะสำหรับการพักอาศัยระยะยาว รวมถึงการต้อนรับที่อบอุ่นและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง ดังที่เราได้มีความพยายามพัฒนาและฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของประเทศ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Airbnb ในโครงการ Live and Work Anywhere ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะยาวมายังประเทศไทย”

ข่าวนี้ต่อยอดมาจากนโยบายส่งเสริมการทำงานระยะไกลที่ไบรอัน เชสกี ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Airbnb อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ หลังประกาศไปเพียงสัปดาห์แรก มีผู้เข้าเยี่ยมชมหน้าเพจร่วมงานกับ Airbnb กว่า 1 ล้านคน ตอกย้ำเทรนด์ของผู้คนที่ต้องการใช้ชีวิตและทำงานที่ใดก็ได้ 

ทั้งนี้ ในเดือนหน้านี้ ผู้เข้าร่วมโครงการ Live Anywhere ของ Airbnb จะใช้ชีวิตในที่พัก Airbnb ครบเวลา 1 ปี ซึ่งพวกเขาได้มีการเดินทางไปเยือนสถานที่ต่างๆ เกือบ 80 แห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ไปจนถึงสก็อตแลนด์และเกาหลีใต้

Airbnb Partners with Tourism Authority of Thailand to Attract Aspiring Remote Workers to Thailand

• Airbnb spotlights Thailand as one of the most remote worker-friendly destinations in the world
• Airbnb to create a dedicated Thailand online resource hub for aspiring remote workers
• In the first three months of 2022, searches for international solo travel in Thailand for long term stays grew by over 50% compared to the same time in 2019

Airbnb has today announced it will partner with 20 destinations around the world to make it easier to live and work anywhere, including Thailand, Bali, Lisbon, and the Caribbean.

Earlier this year, Airbnb launched its Live and Work Anywhere initiative to identify some of the most remote worker-friendly destinations in the world, and support governments and Destination Marketing Organizations (DMOs) in helping to revive tourism and provide economic support to communities after two-plus years of travel restrictions.

The 20 destinations Airbnb will spotlight include:

• Baja California Sur, Mexico
• Bali, Indonesia
• Brindisi, Puglia, Italy  
• Buenos Aires, Argentina
• Caribbean
• Canary Islands, Spain 
• Cape Town, South Africa
• Colombia
• Dubai, United Arab Emirates
• Friuli-Venezia Giulia, Italy
• Lisbon, Portugal
• Malta
• Mexico City, Mexico 
• Palm Springs, California, USA
• Queensland, Australia
• Rural France
• Salzkammergut, Austria
• Tampa Bay, Florida, USA
• Thailand
• Tulsa, Oklahoma, USA

Over the next few months, Airbnb will work closely with the Tourism Authority of Thailand on a range of initiatives, including building a dedicated custom-built hub for Thailand that will showcase top local long-term stay listings as well as important information relating to entry requirements and visa policies to attract remote workers. Airbnb will also partner with Thailand on educational campaigns to promote responsible hosting and traveling as a remote worker. The Thailand hub is expected to launch later this year.

Airbnb’s destination partners range from whole countries to smaller, lesser known towns and were selected based on their attraction to remote workers and progressiveness in evolving policies for those looking to live and work in a different region and attract a new type of traveler. The initiative builds off work during the pandemic which saw Airbnb partnering with more than 160 governments and DMOs to specifically support efforts to encourage the return of tourism — including through remote working. 

Millions of people are now more flexible about where they live and work. As a result, they’re spreading to thousands of towns and cities, staying for weeks, months, or even entire seasons at a time. In the first three months of 2022, searches for international solo travel in Thailand for long term stays grew by over 50% compared to the same time in 2019.

Notably, about one in five guests globally reported using Airbnb to work remotely while traveling in 2021 — a trend that has continued into Q1 2022, with long-term stays at an all-time high, more than doubling in size from Q1 2019. They are essentially “living” on Airbnb as guests have already planned stays in over 72,000 cities and towns this summer.

Research conducted by the Harvard Business School shows that while it is clear that digital nomads, and remote workers in general, can be a boon to any economy, they also might play a key role in fostering entrepreneurship in the communities where they stay, creating “technology clusters” around the world. 

Nathan Blecharczyck, Airbnb co-Founder and Chief Strategy Officer, said: “In the two years since the pandemic began, a new world of travel has emerged in which many workers are untethered to an office. In collaborating with these destinations, we want to make it easier for workers to enjoy this flexibility and support the return of safe and responsible travel. We know that travel brings significant economic opportunity to local communities and connects people around the world. We’re excited to launch this one-stop shop for anyone thinking of joining the millions of workers that are already enjoying this new trend of working flexibility and travel.”

Thapanee Kiatphaibool, Deputy Governor for Domestic Marketing, Tourism Authority of Thailand, shared: “Thailand has long been a top destination for remote workers and long-term travelers globally. Strong local infrastructure, community access and a wide variety of unique accommodation for longer stays continue to attract visitors around the world, as well as our warm hospitality and unique culture. As we look to rebuild the country’s tourism sector and accelerate recovery, we are honoured to partner with Airbnb on its global Live and Work Anywhere initiative to attract long-term travelers to Thailand.”

The news follows on from Airbnb’s own remote-working policy, where co-founder and CEO Brian Chesky told employees they could work from anywhere. In the first week following the announcement, Airbnb received more than 1 million visitors to its career page – reinforcing the appetite people have to live and work anywhere. 

And next month, the Live Anywhere participants finish their year-long adventure of living on Airbnb, which has seen them visit almost 80 places around the world from Thailand to Scotland and South Korea.